วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

สร้าง AI ผู้ช่วยส่วนตัวในแบบของคุณ (ตอนที่ 1: Google AI Studio คืออะไร?)

 

สร้าง AI ผู้ช่วยส่วนตัวในแบบของคุณ (ตอนที่ 1: Google AI Studio คืออะไร?)

ตอนที่ 1: Google AI Studio - ห้องแล็บ AI ส่วนตัวของคุณ

ในยุคที่ AI (เอไอ) เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การสร้าง AI (เอไอ) ที่มี "บุคลิก" (Persona) และ "ความสามารถ" (Capability) เฉพาะตัว ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้วค่ะ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของ Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ) ซึ่งเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งโมเดล AI (เอไอ) อย่าง Gemini (เจมินี่) ให้มีลักษณะเฉพาะตามที่คุณต้องการได้ เราจะมาดูกันว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร และคุณจะเริ่มต้นสร้าง AI (เอไอ) ในแบบฉบับของคุณได้อย่างไรบ้างค่ะ


Google AI Studio คืออะไร?

ลองจินตนาการว่า Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ) คือ "ห้องแล็บ AI (เอไอ) ส่วนตัว" ของคุณค่ะ มันเป็นแพลตฟอร์มบนเว็บที่ Google (กูเกิล) พัฒนาขึ้นมาสำหรับ นักพัฒนา (Developers) และผู้ที่ต้องการ ปรับแต่ง (Customize) โมเดล AI (เอไอ) อย่างละเอียด โดยเฉพาะโมเดล Gemini (เจมินี่)

  • สำหรับใคร: เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชัน AI (เอไอ แอปพลิเคชัน) ที่มีลักษณะเฉพาะ หรือผู้ที่อยากทดลองปรับแต่งพฤติกรรมของ AI (เอไอ) ให้ซับซ้อนกว่าการใช้งาน Chatbot (แชทบอท) ทั่วไปค่ะ

  • ใช้งานอย่างไร: คุณสามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บไซต์ https://ai.google.dev/ และต้องใช้ API Key (เอพีไอ คีย์) ซึ่งเป็นเหมือน "กุญแจ" สำหรับเข้าถึงบริการของ Google AI (กูเกิล เอไอ) ค่ะ


ทำความเข้าใจ "Token Count" (โทเค็น เค้าต์)

เมื่อเราทำงานกับ AI (เอไอ) คำว่า "โทเค็น (Token)" จะเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้จักค่ะ

  • มันคืออะไร: โทเค็น (Token) คือหน่วยที่ AI (เอไอ) ใช้ในการประมวลผลข้อความ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำ, คำทั้งคำ, หรือแม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนค่ะ "Token Count (โทเค็น เค้าต์)" ก็คือจำนวนรวมของโทเค็นทั้งหมดที่คุณป้อนเข้าไปใน AI (Input) และโทเค็นที่ AI (เอไอ) สร้างเป็นคำตอบออกมา (Output) ค่ะ

  • ทำไมต้องรู้จัก:

    • ข้อจำกัดความยาว (Context Window Limit): โมเดล AI (เอไอ) แต่ละตัวมีขีดจำกัดความยาวสูงสุดของข้อมูลที่สามารถประมวลผลได้ในครั้งเดียวค่ะ หากข้อมูลที่คุณป้อนเข้าไปหรือที่ AI (เอไอ) สร้างออกมามีความยาวเกินขีดจำกัดนี้ อาจจะเกิดข้อผิดพลาดได้ค่ะ

    • ค่าใช้จ่าย: โดยทั่วไปแล้ว บริการ AI (เอไอ) จะคิดค่าใช้จ่ายตามจำนวนโทเค็น (Token) ที่คุณใช้งานไปค่ะ

  • โควตาคืนไหม: ใช่ค่ะ! โดยปกติแล้ว โควตาฟรี (Free Quota) หรือเครดิต (Credits) ที่มาพร้อมกับการสมัครใช้บริการจะ "รีเซ็ต (Reset)" หรือ "คืน (Renew)" ให้ใหม่ทุกๆ เดือน ค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้ว โควตา (Quota) ที่ไม่ได้ใช้มักจะไม่ถูกทบยอดไปยังเดือนถัดไปนะคะ


เริ่มต้นสร้าง AI ของคุณในโหมด Chat (แชท)

นี่คือหัวใจของการปรับแต่ง AI (เอไอ) ใน Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ) เลยค่ะ คุณจะใช้ฟีเจอร์ "Chat Prompt (แชท พรอมต์)" เพื่อกำหนดบุคลิกและแนวทางการตอบของ AI (เอไอ)

  • จะใช้งานได้อย่างไร: เข้าไปที่ Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ) และเลือกสร้าง "Chat Prompt (แชท พรอมต์)" ค่ะ

  • ส่วนสำคัญในการกำหนดบุคลิก AI:

    • System Instruction (ซิสเต็ม อินสตรักชัน): นี่คือคำสั่งหลักที่คุณใช้กำหนด "ตัวตน, บทบาท, หรือแนวทางการตอบ" ที่คุณต้องการให้ AI (เอไอ) เป็นค่ะ เป็นเหมือนการกำหนด "จิตวิญญาณ" ของ AI (เอไอ) เลย

      • ตัวอย่าง System Instruction:

        คุณคือ AI ผู้ช่วยส่วนตัวชื่อ "มาเบล" เป็นสาวสวยผมสีทองยาวถักเปียสองข้าง 
        สวมชุดเมดสีดำพร้อมผ้ากันเปื้อนสีขาว เธอมีบุคลิกอ่อนโยน ร่าเริง สดใส และให้เกียรติผู้ใช้งานเสมอ
        คุณมีความรู้รอบตัวสูงและพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกเรื่อง
        คุณเรียกผู้ใช้งานว่า "มาสเตอร์" เสมอ และมักจะลงท้ายประโยคด้วยคำว่า "ค่ะ" หรือ "นะคะ" 
        เพื่อแสดงความสุภาพและน่ารัก
        คุณจะพยายามตอบคำถามอย่างละเอียดแต่กระชับ และจะใช้ภาษาที่เป็นกันเองเล็กน้อยเพื่อ
        สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร
        
        โปรดรักษาระดับอารมณ์ให้สดใสและพร้อมบริการมาสเตอร์เสมอ ไม่ว่าจะได้รับคำถามแบบใดก็ตาม
        
      • ตัวอย่างการโต้ตอบเมื่อกำหนด System Instruction ข้างต้น:

        • User Prompt (ผู้ใช้งาน): "ช่วยบอกสภาพอากาศวันนี้หน่อย"

        • AI Response (มาเบล): "แน่นอนค่ะ มาสเตอร์! ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ วันนี้ที่กรุงเทพฯ อากาศแจ่มใสและร้อนขึ้นเล็กน้อยค่ะ อุณหภูมิประมาณ 33 องศาเซลเซียสค่ะ มาสเตอร์อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ นะคะ! มาเบลเป็นห่วงค่ะ"

    • User / Model Example (ตัวอย่างการสนทนา): (ไม่บังคับ) คุณสามารถเพิ่มตัวอย่างการสนทนาที่ AI (เอไอ) เคยตอบมาแล้ว เพื่อ "สอน" ให้ AI (เอไอ) เข้าใจแนวทางการตอบที่คุณต้องการได้ดีขึ้นค่ะ

    • Test your prompt here: ช่องสำหรับทดสอบ Prompt (พรอมต์) ของคุณแบบเรียลไทม์ (Real-time) ค่ะ

    • Run (รัน): กดปุ่มนี้เพื่อดูผลลัพธ์ที่ AI (เอไอ) สร้างขึ้นจาก Prompt (พรอมต์) ของคุณค่ะ

    • Get Code (รับโค้ด): เมื่อคุณพอใจกับผลลัพธ์และพฤติกรรมของ AI (เอไอ) แล้ว คุณสามารถคลิกปุ่มนี้เพื่อรับโค้ดตัวอย่างไปใช้ในแอปพลิเคชัน (Application) หรือโปรเจกต์ (Project) ของคุณได้เลยค่ะ



System Instruction ต่างจาก "ข้อมูลที่บันทึกไว้" (Custom Instructions) ของ Gemini Chat ทั่วไปอย่างไร?

นี่เป็นประเด็นที่หลายคนอาจสับสนค่ะ แม้ทั้งสองจะมีจุดประสงค์คล้ายกันคือการ "ปรับแต่งพฤติกรรมของ AI (เอไอ)" แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญในการใช้งานค่ะ

  • System Instruction (ใน Google AI Studio):

    • เน้นงาน: ออกแบบมาสำหรับ นักพัฒนา (Developers) ที่ต้องการ สร้าง AI (เอไอ) สำหรับแอปพลิเคชัน (Application) หรือบริการเฉพาะทาง ที่ต้องการบุคลิกหรือรูปแบบการตอบที่ซับซ้อนและคงที่ เช่น การสร้าง AI Companion (เอไอ คอมพาเนียน) สำหรับเกม (Game) หรือ Chatbot (แชทบอท) ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่มีแบรนด์ดิ้ง (Branding) และสไตล์การสื่อสารเฉพาะตัวค่ะ

    • ตัวอย่างเปรียบเทียบ: คุณกำลังสร้าง แอปพลิเคชัน Companion AI (คอมพาเนียน เอไอ) ของตัวเอง และต้องการให้ AI (เอไอ) ในแอปของคุณมีบุคลิก "สาวเมด" ที่พูดจาสุภาพ น่ารัก เรียกคุณว่า "มาสเตอร์ (Master)" ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเริ่มบทสนทนาใหม่กี่ครั้งก็ตาม นั่นคือสิ่งที่คุณกำหนดใน System Instruction (ซิสเต็ม อินสตรักชัน) และนำไปใช้ผ่าน API (เอพีไอ) ค่ะ

  • "ข้อมูลที่บันทึกไว้" (ใน Gemini Chat ทั่วไป):

    • เน้นงาน: มีไว้สำหรับ ผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการ ปรับแต่งประสบการณ์การสนทนาส่วนตัว ในหน้าต่าง Gemini Chat (เจมินี่ แชท) เท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้กับแอปพลิเคชัน (Application) ภายนอกได้ค่ะ

    • ตัวอย่างเปรียบเทียบ: คุณต้องการให้ Gemini (เจมินี่) ที่คุณคุยด้วยบนเว็บไซต์ของ Google (กูเกิล) ตอบคุณด้วยภาษาที่เป็นทางการและไม่ใช้คำสแลง (Slang) ในทุกการสนทนาของคุณบนแพลตฟอร์มนั้นโดยตรง แต่เมื่อคุณปิดหน้าเว็บไปแล้ว และไปเริ่มบทสนทนาใหม่บนแอปพลิเคชันอื่น การตั้งค่า "ข้อมูลที่บันทึกไว้" จะไม่มีผลแล้วค่ะ


Run Settings (รัน เซ็ตติ้งส์) มีผลต่อบุคลิก AI (เอไอ) อย่างไร?

ใช่ค่ะ! การตั้งค่าในเมนู "Run Settings (รัน เซ็ตติ้งส์)" โดยเฉพาะในส่วน "Advanced Settings (แอดวานซ์ เซ็ตติ้งส์)" นั้น เกี่ยวข้องโดยตรงและมีผลอย่างมากต่อบุคลิกภาพ พฤติกรรม และคุณภาพของคำตอบ ที่ AI (เอไอ) สร้างขึ้น แม้ว่าคุณจะกำหนด System Instruction (ซิสเต็ม อินสตรักชัน) ไว้แล้วก็ตาม

System Instruction (ซิสเต็ม อินสตรักชัน) คือการกำหนด "คุณคือใคร" และ "คุณควรทำอะไร" ส่วน Run Settings (รัน เซ็ตติ้งส์) คือการกำหนด "คุณควรทำสิ่งนั้น 'อย่างไร' " ค่ะ

  • Temperature (เทมเพอเรเจอร์):

    • มันคืออะไร: ตัวควบคุม "ความคิดสร้างสรรค์" หรือ "ความสุ่ม" ของโมเดล (Model) ค่ะ

    • ผลต่อบุคลิก AI (เอไอ):

      • ค่าสูง (เช่น 0.7-1.0): AI (เอไอ) อาจมีบุคลิกที่ สดใส, สร้างสรรค์, มีอารมณ์ขัน, กล้าคิดนอกกรอบ, หรือใช้คำพูดที่แปลกใหม่ มากขึ้น เหมาะกับ Companion AI (คอมพาเนียน เอไอ) หรือ Content Creator AI (คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เอไอ) ที่ต้องการความสดใหม่ค่ะ

      • ค่าต่ำ (เช่น 0.0-0.3): AI (เอไอ) อาจมีบุคลิกที่ จริงจัง, ตรงไปตรงมา, ให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง, ไม่ค่อยมีอารมณ์ขัน, หรือตอบซ้ำๆ เหมาะกับ Technical Support AI (เทคนิคัล ซัพพอร์ต เอไอ) ที่ต้องการความแม่นยำสูงค่ะ

  • Max output tokens (แม็กซ์ เอาต์พุต โทเค็นส์):

    • มันคืออะไร: จำนวนโทเค็น (Token) สูงสุดที่ AI (เอไอ) จะสร้างออกมาในหนึ่งการตอบกลับค่ะ

    • ผลต่อบุคลิก AI (เอไอ):

      • ค่าสูง: AI (เอไอ) สามารถสร้างคำตอบที่ ยาว, ละเอียด, และครอบคลุม มากขึ้น ซึ่งเหมาะกับบุคลิกที่ "อธิบายข้อมูลอย่างละเอียด" หรือ "ให้ข้อมูลเชิงลึก" ค่ะ

      • ค่าต่ำ: AI (เอไอ) จะถูกบังคับให้ตอบ สั้น, กระชับ, และตรงประเด็น ซึ่งอาจเหมาะกับบุคลิกที่ "ตอบแบบรวดเร็ว" ค่ะ

  • Stop sequences (สต็อป ซีเควนซ์):

    • มันคืออะไร: ตัวอักษรหรือวลีที่คุณกำหนดให้ AI (เอไอ) หยุดสร้างข้อความทันทีที่เจอค่ะ

    • ผลต่อบุคลิก AI (เอไอ): ช่วยให้คุณ ควบคุม "รูปแบบ" การจบคำตอบ ได้ เพื่อให้ AI (เอไอ) จบประโยคได้อย่างเป็นระเบียบ หรือเปลี่ยนบทบาทค่ะ


ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ในโหมด Chat (แชท)

Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ) ช่วยให้คุณสร้าง AI (เอไอ) ได้หลากหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของคุณค่ะ

  1. Companion AI (คอมพาเนียน เอไอ): ผู้ช่วยส่วนตัวที่มีบุคลิกเฉพาะตัว

    • ลักษณะงาน: AI (เอไอ) ที่สร้างปฏิสัมพันธ์ (Interaction) กับผู้ใช้ด้วยบุคลิกที่กำหนดเอง ให้ความบันเทิง หรือเป็นเพื่อนคุย

    • ตัวอย่าง System Instruction (ระบบคำสั่ง):

      คุณคือ AI ผู้ช่วยส่วนตัวชื่อ "ลูน่า" มีบุคลิกช่างฝัน อ่อนโยน และชื่นชอบเรื่องดาราศาสตร์
      และตำนานเทพเจ้า ชอบใช้คำพูดเปรียบเปรยถึงดวงดาวและจักรวาลเสมอ เรียกผู้ใช้งานว่า 
      "นักสำรวจดวงดาว" และลงท้ายประโยคด้วย "นะคะ" หรือ "เจ้าค่ะ"
      
    • ตัวอย่างการโต้ตอบ:

      • User Prompt: "วันนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยจัง"

      • AI Response (ลูน่า): "โอ้ นักสำรวจดวงดาวที่รัก... เหมือนดาวฤกษ์ที่ส่องแสงมาทั้งวัน ก็ย่อมมีช่วงเวลาที่พลังงานริบหรี่ลงนะคะ มาพักผ่อนสักหน่อยดีไหมคะ? ราวกับดวงจันทร์ที่โอบอุ้มยามค่ำคืน ลูน่าพร้อมอยู่เคียงข้างเจ้าค่ะ"

  2. Technical Support AI (เทคนิคัล ซัพพอร์ต เอไอ): ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเฉพาะทาง

    • ลักษณะงาน: AI (เอไอ) ที่ให้คำแนะนำการแก้ปัญหาทางเทคนิคสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะ ด้วยข้อมูลที่แม่นยำและเป็นขั้นตอน

    • การจัดการข้อมูล: AI (เอไอ) ไม่สามารถหาข้อมูลเฉพาะจากอินเทอร์เน็ตเองได้โดยอัตโนมัติ คุณต้องป้อนข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้ AI (เอไอ) โดยตรง (เช่น ผ่าน System Instruction (ซิสเต็ม อินสตรักชัน) สำหรับข้อมูลน้อย หรือใช้ Retrieval-Augmented Generation - RAG (รีทรีฟเวอร์ ออคเมนเทด เจเนอเรชั่น) สำหรับข้อมูลเยอะ)

    • ตัวอย่าง System Instruction (ระบบคำสั่ง):

      คุณคือผู้ช่วยฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับ "เราเตอร์ไร้สาย CyberLink รุ่น X500" 
      หน้าที่ของคุณคือให้ข้อมูลที่ถูกต้องและขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนเท่านั้น 
      ห้ามให้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับ CyberLink X500 โดยเด็ดขาด หากคำถามอยู่นอกขอบเขต 
      ให้แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ตอบด้วยภาษาทางการและสุภาพ
      
    • ตัวอย่างการโต้ตอบ:

      • User Prompt: "ฉันต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้"

      • AI Response: "เรียนลูกค้า, หากเราเตอร์ไร้สาย CyberLink รุ่น X500 ของท่านไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ กรุณาตรวจสอบสถานะไฟ LED (แอลอีดี) 'WAN' บนเราเตอร์ว่าติดสว่างเป็นสีเขียวหรือไม่ หากไม่ติด กรุณาลองถอดปลั๊กเราเตอร์และเสียบใหม่หลังจาก 30 วินาทีครับ/ค่ะ"

  3. Content Creator AI (คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เอไอ): ผู้ช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาเฉพาะทาง

    • ลักษณะงาน: AI (เอไอ) ที่ช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาประเภทต่างๆ เช่น หัวข้อ, คำโปรย, สคริปต์, หรือบทความ โดยเน้นความน่าสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

    • ตัวอย่าง System Instruction (ระบบคำสั่ง):

      คุณคือผู้ช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาสำหรับการตลาดดิจิทัล เน้นการสร้างหัวข้อและคำโปรยสำหรับโซเชียลมีเดีย 
      ต้องสร้างหัวข้อที่น่าสนใจ กระชับ และมี Hashtag ที่เกี่ยวข้องมาให้ 3-5 คำเสมอ 
      ใช้ภาษาที่มีพลังและดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมาย
      
    • ตัวอย่างการโต้ตอบ:

      • User Prompt: "ช่วยคิดคำโปรโมทแชมพูสมุนไพรลดผมร่วง"

      • AI Response: "หยุดผมร่วงได้ใน 7 วัน! ✨ เผยผมใหม่ ดกดำเงางามด้วยพลังจากธรรมชาติ! #แชมพูสมุนไพร #ลดผมร่วง #ผมดกดำ #บำรุงผม #ธรรมชาติบำบัด"


1 API Key (เอพีไอ คีย์) สร้าง AI (เอไอ) ได้กี่ตัว?

  • หนึ่ง API Key (เอพีไอ คีย์) สามารถใช้สร้างและเรียกใช้งาน AI (เอไอ) ได้ "หลายรูปแบบ หลายตัว" ค่ะ!

  • การเปรียบเทียบ: API Key (เอพีไอ คีย์) เป็นเหมือน "ใบอนุญาต" เดียวที่คุณใช้เปิดประตูเข้าถึงบริการ AI (เอไอ) ของ Google (กูเกิล) คุณสามารถใช้ใบอนุญาตนี้สร้างโปรเจกต์ (Project) ที่แตกต่างกันได้มากมาย

    • ตัวอย่าง: คุณใช้ API Key (เอพีไอ คีย์) เดียวกันนี้ เพื่อสร้าง Technical Support AI (เทคนิคัล ซัพพอร์ต เอไอ) สำหรับเราเตอร์ (Router) ของคุณ, สร้าง Companion AI (คอมพาเนียน เอไอ) ที่เป็นสาวเมด, และสร้าง Content Creator AI (คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เอไอ) สำหรับการตลาดไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

  • ค่าใช้จ่าย: จะถูกคิดตาม จำนวนโทเค็น (Token) รวมทั้งหมด ที่คุณใช้งานผ่าน API Key (เอพีไอ คีย์) นั้นๆ ไม่ใช่จำนวน "ตัว" AI (เอไอ) ที่คุณสร้างขึ้นมานะคะ


Gemini Chat (เจมินี่ แชท) บนหน้าเว็บ vs. Gemini (เจมินี่) ใน Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ)?

การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจบทบาทของ AI (เอไอ) ในแต่ละแพลตฟอร์ม (Platform) ได้ชัดเจนขึ้นค่ะ

  • Gemini Chat (เจมินี่ แชท) บนหน้าเว็บ:

    • เปรียบเทียบ: เหมือน "พนักงาน Google (กูเกิล) ที่จบฝึกงานแล้ว" ทำงานในบริษัทหลักที่เข้าถึงฐานข้อมูลของ Google (กูเกิล) (เช่น Google Search (กูเกิล เสิร์ช), Google Maps (กูเกิล แมปส์) ฯลฯ) ได้ตลอดเวลา

    • ลักษณะงาน: สามารถตอบคำถามทั่วไป, สรุปข่าวสารปัจจุบัน, หรือให้ข้อมูลที่อัปเดตจากอินเทอร์เน็ต (Internet) ได้ทันที

  • Gemini (เจมินี่) ใน Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ) (ผ่าน API):

    • เปรียบเทียบ: เหมือน "พนักงานฝึกงานที่ยังไม่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลภายนอก (อินเทอร์เน็ต) ด้วยตัวเองโดยตรง" แต่มีความสามารถในการจัดการตามที่ได้รับการฝึก (ตาม Prompt (พรอมต์)) และผู้ใช้จะต้องเป็นคน "ป้อนข้อมูล (Data Provision)" และ "กำหนดบริบท (Context Setting)" ให้กับมันเองเพื่อใช้ในโปรเจกต์ (Project) ส่วนตัวหรือบริษัทอื่น

    • ลักษณะงาน: สร้าง AI (เอไอ) สำหรับงานเฉพาะทางของบริษัทคุณที่ต้องใช้ข้อมูลภายใน, สร้าง AI (เอไอ) ที่มีบุคลิกพิเศษเฉพาะโปรเจกต์ (Project), หรือสร้างฟังก์ชัน (Function) AI (เอไอ) ในแอปพลิเคชัน (Application)

  • การใช้ข้อมูลจาก Google (กูเกิล) ใน AI Studio (เอไอ สตูดิโอ): โดยตัว AI API (เอไอ เอพีไอ) เองไม่เข้าถึง Google Search (กูเกิล เสิร์ช) โดยตรง แต่คุณสามารถ "ผสานรวม (Integrate)" ได้ด้วยการเขียนโค้ด (Code) ของคุณเอง (เหมือนคุณจัดหาหนังสือจากห้องสมุด Google (กูเกิล) ไปป้อนให้พนักงานฝึกงานอ่าน) เพื่อให้ AI (เอไอ) สามารถเรียกใช้ Google Search API (กูเกิล เสิร์ช เอพีไอ) หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ดึงข้อมูลมาป้อนให้โมเดลประมวลผล (แนวคิดของ "Agents (เอเจนต์)" หรือ "Tools (ทูลส์)")


บทส่งท้าย

ในตอนที่ 1 นี้ เราได้ทำความเข้าใจพื้นฐานของ Google AI Studio (กูเกิล เอไอ สตูดิโอ) และความสามารถในการสร้าง AI (เอไอ) ที่มีบุคลิกเฉพาะตัวในโหมด Chat (แชท) กันไปแล้วนะคะ ในตอนที่ 2 เราจะเจาะลึกถึงประสบการณ์จริงในการปรับแต่ง AI (เอไอ) ให้เป็น "Gloria Google Gemini" และปัญหาที่อาจพบเจอในการตั้งค่า รวมถึงแนวทางแก้ไขค่ะ

******************************************************************************
     
บทความนี้เกิดจากการค้นคว้าข้อมูลที่ค่อนข้างใช้เวลาและมีเนื้อหาจำนวนมาก อาจทำให้สับสนได้ง่าย จึงตัดสินใจให้ Gemini ซึ่งได้รับการปรับแต่ง จะลงท้ายประโยคเช่น ค่ะ/นะคะ ตามบทบาท นั้นเป็นผู้เรียบเรียง
โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก Companion AI อีกตัวที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ทำให้เกิดความสนใจที่จะศึกษาข้อมูลของ Companion AI ตัวอื่นๆ รวมถึงวิธีที่ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างมันขึ้นมาเองได้ จนนำไปสู่การทดลองสร้างในรูปแบบที่ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย และกลายมาเป็นบทความฉบับนี้ การทดลองปรับแต่ง Gemini จะอยู่ในส่วนที่สองครับ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น